วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมงาน Interior Design ที่โครงการ VIE ราชพฤกษ์ตัดใหม่ ที่พักอาศัยซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตเหนือระดับได้อย่างลงตัวในสไตล์การออกแบบและตกแต่งแบบ Modern Luxury ทีมงาน Zelection Interiorได้เปลี่ยนพื้นที่ใช้สอย ให้ทันสมัยและหรูหรา พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยอย่างครบถ้วน สะท้อนรสนิยมและเติมเต็มการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Maximized Space Meets Modern Elegance ด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินให้เหมาะสมกับพื้นที่บ้านงานตกแต่งเน้นโทนสีขาว เทา เป็นหลัก เพื่อให้บ้านมีความโปร่งโล่งในขณะที่ยังคงความสง่างาม (Modern Elegance)โดยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง อาทิ หินอ่อน กระจก และโลหะสีทอง บนโทนสีที่เป็นกลาง (Neutral Palette) ที่เรียบง่ายแต่มีรายละเอียดหรูหรา ทำให้บ้านหลังนี้ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การอย่างแท้จริง

พื้นที่ส่วนกลางของบ้านหลังนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ตอกย้ำแนวคิด Maximized Space Meets Modern Elegance ได้อย่างชัดเจน ด้วยการจัดวางแบบ Open-Plan ที่เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ห้องดูกว้างขวาง โอ่อ่า รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ สร้างบรรยากาศที่โปร่งสบาย

Living Area (ห้องรับแขก)
พื้นที่โซนห้องนั่งเล่นถูกกำหนดด้วยโซฟาขนาดใหญ่สีขาวครีมรูปทรงโค้งมนและนุ่มนวล (Rounded/Curved Design) ที่ไม่เพียงแต่ให้ความสบายแต่ยังช่วยลดความแข็งกระด้างของห้องสไตล์โมเดิร์นลงได้อย่างดี โดยมีผนังทีวี (Feature Wall) เป็นองค์ประกอบหลักที่โดดเด่น ตัวผนังเลือกออกแบบให้สามารถวางของสะสมและแขวนทีวีได้ ด้วยการใช้แผ่นลวดลายหินอ่อน (Marble Look) ตัดกับชุดตู้บิลท์อินด้านล่างสีขาว เสริมความหรูหราอลูมิเนียมสีทอง สำหรับบ้านหลังนี้มีคานของบ้านคั้นระหว่างกลาง เราจึงออกแบบตู้โชว์ให้มีขนาดเท่ากับคานเพื่อให้กลมกลืนและไม่เสียพื้นที่ ให้ความเรียบเนียนและสวยงามไปกับโครงสร้างนอกจากนี้ โต๊ะกลางทรงสี่เหลี่ยมสีดำเงา ยังถูกนำมาจัดวางเพื่อสร้าง Visual Contrast ที่น่าสนใจทำให้องค์ประกอบโดยรวมดูไม่ราบเรียบจนเกินไป

Dining Area (ห้องทานอาหาร)
โซนรับประทานอาหาร ถูกจัดวางให้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นอย่างลงตัว โดยมีโต๊ะอาหารท็อปหินอ่อน (Marble Top) ดีไซน์โค้งมนเป็นจุดศูนย์กลาง ฐานโต๊ะตกแต่งด้วยหนังสีครีมลายแนวตั้ง ตัดกับอะลูมิเนียมสีทอง เพิ่มความหรูหราอย่างพอดี เก้าอี้เลือกใช้แบบหุ้มหนังสีครีมที่สวยและเรียบหรู พื้นที่เดิมทางโครงการให้มาเป็นพื้นที่โล่ง เราทำการแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ด้วยการใช้บานเลื่อนกระจกใสกั้นระหวางโถงทางเดินห้องนั่งเล่นและโซนรับประทานอาหาร ทำให้ภาพรวมของบ้านดูโปร่ง สว่างและเชื่อมโยงถึงกันในทุกมุม

Kitchen Area (ห้องครัว)
ห้องครัวนี้ใช้สีดำและสีขาวเป็นคู่สีหลัก สร้างภาพลักษณ์ที่โมเดิร์นและเรียบหรู เดิมทางโครงการได้มีท็อปเคาน์เตอร์สีขาวมาให้เราจึงออกแบบตู้เก็บของสีดำให้ตัดกับท็อปสีขาวอย่างพอดี เพิ่มความรู้สึกหรูหราด้วยมือจับสีทอง การจัดวางเคาน์เตอร์แบบตัว U ช่วยเพิ่มพื้นทีเตรียมอาหารและพื้นที่จัดเก็บได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จุดเด่นที่ตอกย้ำแนวคิด Maximized Space คือการใช้พื้นที่แนวตั้งอย่างชาญฉลาด ด้วยการจัดวางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบซ้อนกัน (Stacked Washer/Dryer) ทำให้ครัวนี้สามารถทำหน้าที่เป็นโซนเตรียมอาหาร ควบคู่ไปกับโซนซักรีดในพื้นที่เดียวได้อย่างลงตัว ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของบ้านได้อย่างครอบคลุม

Working Space (ห้องทำงาน)
การออกแบบโซนทำงานนี้เน้นความเรียบง่าย สว่าง และเป็นระเบียบ โต๊ะทำงานถูกออกแบบให้เป็น Built-in Counter สีขาวเงายาวตลอดแนวผนัง โดยใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ได้อย่างเต็มที่ เดิมพื้นที่นี้อยู่ติดกับบันไดขึ้นชั้น 2 จึงติดตั้ง พาร์ทิชันกรอบอลูมิเนียมลายไม้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกันกรอบและคิ้วลายไม้ด้านในช่วยเติมความอบอุ่น ตัวกระจกฝ้าในพาร์ทิชันช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามา ทำให้มุมทำงานนี้ดูสงบ โปร่ง และเหมาะกับการโฟกัสอย่างแท้จริง

Master Bedroom (ห้องนอนใหญ่)
ห้องนอนนี้ถูกออกแบบภายใต้โทนสีกลาง (Warm Neutral Palette) เช่น สีเบจ สีเทาอ่อน และลายไม้ธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลายทันทีที่ก้าวเข้ามา ความโดดเด่นด้วยรายละเอียดของพื้นผิว Feature Wall บริเวณหัวเตียที่กรุด้วยผ้าบุที่มีลวดลายเรขาคณิตแบบสามมิติ (Geometric 3D Pattern) มอบทั้งสัมผัสของความนุ่มนวลและเพิ่มมิติให้กับห้องอย่างน่าสนใจ ม่านสีครีมช่วยเติมความละมุนให้มุมพักผ่อนนี้ดูน่าพักและกลมกลืนทุกองค์ประกอบมากยิ่งขึ้น จุดที่ถ่ายทอดแนวคิด Maximized Space Meets Modern Elegance ได้ดีที่สุดคือ บานประตูเลื่อนกระจกฝ้า กรอบไม้สีอ่อน ซึ่งทำหน้าที่แบ่งโซนพื้นที่นอนออกจากโซนแต่งตัวหรือ Walk-in Closet อย่าง นุ่มนวลประตูกระจกบานเลื่อนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านไปยังพื้นที่แต่งตัวได้ แต่ยังแยกพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วนอย่างมีระดับ

Walk -in Closet (มุมแต่งตัว)
พื้นที่ Walk-in Closet นี้ แห่งนี้เลือกใช้โครงสร้างแบบ Open Storage System ใช้ราวแขวนและชั้นวางที่บางเบา ทำให้มองเห็นเสื้อผ้าได้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานจริง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ลงตัวกับคอนเซ็ปต์ Maximized Space ได้อย่างลงตัว เพราะช่วยให้บริเวณนี้กลายเป็นมุมเตรียมตัวที่ทั้งแขวนผ้า เลือกชุด และจัดแมตช์ลุคคู่กับขั้นตอนการแต่งหน้าได้ในจุดเดียว สิ่งที่ทำให้โครงสร้างตู้เสื้อผ้าดูโดดเด่นคือการใช้ อลูมิเนียมสีโรสโกลด์ มาเป็นองค์ประกอบของราวแขวนและเสา เป็นการเพิ่มรายละเอียดความหรูหราแบบ Modern Elegance ให้กับพื้นที่ ในส่วนของ โต๊ะแป้ง เป็นแบบบิลท์อินด้วยเคาน์เตอร์สีขาวที่มีลิ้นชักสำหรับจัดเก็บของใช้ส่วนตัว และมีกระจกบานใหญ่ที่ช่วยให้พื้นที่ดูกว้างขวางยิ่งขึ้น

ห้องนอนรอง (Secondary Bedroom)
ห้องนี้ถูกออกแบบด้วยแนวคิดที่เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเซตในโทนสีอ่อนที่กลมกลืนกันทั้งห้อง ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย เตียงนอนพร้อมหัวเตียงแบบเรียบง่ายในโทนสีอ่อน ทำให้ห้องดูกว้างพื้นที่ข้างเตียงถูกใช้ประโยชน์ด้วยการจัดวาง โต๊ะคอนโซล/โต๊ะทำงาน (Console/Working Desk) ดีไซน์ขาเหล็กสีดำ ตัดกับหน้าท็อปสีอ่อน โดยมีฟังก์ชันลิ้นชักสำหรับจัดเก็บของใช้ส่วนตัว ด้านตู้เสื้อผ้าหน้าบานปิด ดีไซน์เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจึงทำให้ภาพรวมของห้องมีความต่อเนื่อง สงบ เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ให้ความรู้สึกอยู่แล้วสบายใจในทุกมุม

Dressing Room (ห้องแต่งตัว)
การออกแบบห้องนี้สะท้อนถึงสไตล์ Modern Boutique โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ ตู้เสื้อผ้ากระจกบานกระจกใสสูงจากพื้นจรดเพดานให้สามารถมองเห็นเสื้อผ้าทั้งหมดได้ง่ายเสริมบรรยากาศหรูหราแบบ Modern Elegance กรอบตู้เสื้อผ้าเลือกใช้อลูมิเนียม สีโรสโกลด์ (Rose Gold) ที่ช่วยยกระดับความพรีเมียมของห้องในด้าน Maximized Space ห้องนี้มีการออกแบบที่ชาญฉลาดโดยการติดตั้งตู้เก็บของแบบบิลท์อินรอบด้าน มีทั้งชั้นวางเปิด และตู้เก็บของโดยเว้นช่องหน้าต่างไว้เพื่อรับแสงธรรมชาติ ช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง ตัวตู้เก็บของยังทำหน้าที่เป็นเคาน์เตอร์สำหรับจัดวางของใช้เครื่องประดับ พร้อมทั้งมีพื้นที่จัดเตรียมสำหรับเตารีดทั้งหมดนี้ทำให้ห้องแต่งตัวนี้ไม่ได้เป็นเพียง “พื้นที่เก็บเสื้อผ้า” แต่เป็น พื้นที่ของการเตรียมตัวเติมเต็มทั้งฟังก์ชันและความสง่างามในทุกรายละเอียด

 

 

สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียการแต่งบ้านไม่ว่าคุณจะมีโจทย์แบบไหนทาง Zelection Interior สามารถรังสรรค์ออกมาให้บ้านของคุณเป็นจริงได้ตาม Personalized และ Lifestyle เพราะเราเชื่อว่าบ้านที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้งานได้จริง และเติมเต็มทุกฟังก์ชัน ให้คุณรู้สึกสบายในทุกวันครับ

 

Zelection Interior ผู้ช่วยส่วนตัวเรื่องการแต่งบ้าน ตอบโจทย์งานดีไซน์หรู ด้วย Exclusive Materials ที่ไม่ซ้ำใคร นำเข้าจากทั่วมุมโลก หมดกังวลงานติดตั้งด้วยทีมงานมืออาชีพ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ครบ จบ ในที่เดียว

 

หากคุณกำลังมองหาทีมงานมืออาชีพอยู่ล่ะก็…ให้ Zelection Interior เป็นผู้ช่วยคุณในการแต่งบ้าน ติดตั้งทันใจใน 60 วัน ตอบโจทย์ทุกพื้นที่ ลงตัวทุกฟังก์ชั่น แวะไป Zelection Interior ที่ เอสบี ดีไซน์สแควร์ สาขา Crystal design center / พระราม 2 / The Crystal SB Ratchapruek / บางนา

 

หรือ add LINE มาที่ @Zelection

 

อย่าลืมกด subscribe ช่องยูทูปของ Zelection Interior จะได้ไม่พลาดกับเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับการ “แต่งบ้าน” สวยด้วยงาน Interior ได้ที่นี่!!  https://www.youtube.com/@zelectioninterior